หากพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและสุขอนามัยที่ดีให้กับตัวเรา คงขาดอุปกรณ์อย่าง "เครื่องซักผ้า" ไปไม่ได้ ยิ่งในปัจจุบันมีให้เลือกใช้หลากหลายชนิด ทั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า และเครื่องซักผ้าฝาบน แต่ถึงแม้ว่าหลาย ๆ คนจะใช้เครื่องซักผ้ากันอยู่เป็นประจำ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ายังมีลืมรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรระวังต่อการใช้งาน เพราะอาจทำให้เครื่องเสียหรือพังก่อนเวลาอันควรได้
เราได้รวบรวมเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะเครื่องแบบฝาหน้ามาฝากกัน คุณพ่อบ้านแม่บ้านจะได้ใช้เครื่องซักผ้ากันได้ยาวนานยิ่งขึ้น
7 วิธียืดอายุเครื่องซักผ้า
เคยสังเกตไหม? เวลาที่เราใช้งานเครื่องซักผ้าเป็นเวลานาน และไม่ค่อยได้ทำความสะอาด ช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มมักจะตามมาด้วยคราบความเหนียว และเกิดการอุดตันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาซักผ้าต่าง ๆ ควรได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน โดยสามารถถอดช่องออกมาแล้วนำแปรงสีฟันขนนุ่มขนาดพอดีขัดบริเวณที่มีคราบสกปรกเกาะอยู่ แล้วปล่อยให้แห้ง จากนั้นค่อยนำกลับไปใส่ที่ตัวเครื่องเหมือนเดิม เพียงเท่านี้ช่องใส่น้ำยาต่าง ๆ ก็จะไม่อุดตันแล้ว
หลายคนอาจจะคิดว่าการล้างเครื่องซักผ้าเป็นประจำอาจเป็นสิ่งไม่จำเป็น แต่เราขอบอกเลยว่า การล้างเครื่องซักผ้า แค่เพียงอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง จะช่วยเพิ่มความสะอาดให้กับเสื้อผ้าของเราได้มากขึ้น เพราะตัวถังเป็นสิ่งที่ช่วยรองรับสิ่งสกปรกที่มาจากเสื้อผ้า, ผ้าเช็ดตัว, ผ้าเช็ดโต๊ะ, ปลอกหมอน ฯลฯ มาเป็นเวลานาน ซึ่งสิ่งสกปรกเหล่านี้นอกจากจะสร้างสุขอนามัยที่ไม่ดีให้กับคุณและครอบครัวแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการอุดตันของตัวเครื่อง ส่งผลให้เครื่องไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับวิธีในการล้างเครื่องซักผ้าที่เราขอแนะนำมีดังนี้
เชื่อว่าแทบทุกคนคงจะเคยลืมเหรียญ, เศษกระดาษ หรือเศษขยะไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง แล้วนำไปซัก และเชื่อว่าไม่เป็นอะไร แต่ในความจริงแล้ว นี่คืออีกหนึ่งสาเหตุของการลดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า เนื่องจากสิ่งของเล็ก ๆ เหล่านี้อาจเข้าไปอุดตัน หรือติดตามกลไกของเครื่องซักผ้า ทำให้เกิดความเสียหายหรือพังได้
การปล่อยผ้าที่ซักเสร็จแล้วทิ้งไว้ในเครื่องซักผ้าเป็นเวลานาน อาจเป็นสาเหตุของความอับชื้น, เชื้อรา และกลิ่นเหม็นอับที่เกิดภายในตัวเครื่องและเสื้อผ้าของคุณ รวมถึงยังอาจจะทำให้เกิดคราบต่าง ๆ บริเวณขอบยางรอบฝาเครื่องได้
การเปิดฝาระบายอากาศอยู่เสมอ หลังจากซักผ้าเสร็จประมาณ 15-20 นาที จะเป็นการช่วยลดกลิ่นอับและความชื้นบนตัวเครื่องซักผ้าได้อีกวิธีหนึ่ง หรือถ้าคุณอยากเพิ่มความสะอาดให้กับตัวถัง เราขอแนะนำให้คุณหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดภายในตัวถังเพื่อความสะอาดในการซักผ้าครั้งถัดไป
การนำผ้าใส่เครื่องซักผ้าแน่นจนเกินไป อาจทำให้เครื่องซักผ้าของคุณรับน้ำหนักไม่ไหว ซึ่งไม่ว่าเครื่องซักผ้าของคุณจะมีราคาแพง หรือเครื่องใหญ่แค่ไหน การใช้งานในลักษณะนี้ก็เป็นสาเหตุทำให้ตัวเครื่องทำงานหนัก และส่งผลให้เครื่องเสื่อมสภาพได้ง่าย แถมยังทำให้เปลืองไฟอีกด้วย
7. ตรวจสภาพเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอทางที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้คุณตรวจสภาพเครื่องซักผ้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เสียงขณะซักเพราะหากเกิดมีเสียงที่แปลกไปขณะใช้งาน อาจมีสาเหตุจากน็อตหรืออะไหล่บางชิ้นหลุด รวมถึงสาเหตุอย่างน้ำรั่ว เป็นต้น เพื่อจะได้รีบซ่อมแซมและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งซ่อมหากมีปัญหาไม่หนักมาก
03 เมษายน 2567
ผู้ชม 120 ครั้ง