สกุลเงิน
ภาษา
ตะกร้าสินค้า

งานซ่อมทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

หมวดหมู่: บริการของเรา

หากพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและสุขอนามัยที่ดีให้กับตัวเรา คงขาดอุปกรณ์อย่าง "เครื่องซักผ้า" ไปไม่ได้ ยิ่งในปัจจุบันมีให้เลือกใช้หลากหลายชนิด ทั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า และเครื่องซักผ้าฝาบน แต่ถึงแม้ว่าหลาย ๆ คนจะใช้เครื่องซักผ้ากันอยู่เป็นประจำ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ายังมีลืมรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรระวังต่อการใช้งาน เพราะอาจทำให้เครื่องเสียหรือพังก่อนเวลาอันควรได้

เราได้รวบรวมเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะเครื่องแบบฝาหน้ามาฝากกัน คุณพ่อบ้านแม่บ้านจะได้ใช้เครื่องซักผ้ากันได้ยาวนานยิ่งขึ้น

7 วิธียืดอายุเครื่องซักผ้า

  1. ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกอยู่เสมอ

เคยสังเกตไหม? เวลาที่เราใช้งานเครื่องซักผ้าเป็นเวลานาน และไม่ค่อยได้ทำความสะอาด ช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มมักจะตามมาด้วยคราบความเหนียว และเกิดการอุดตันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาซักผ้าต่าง ๆ ควรได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน โดยสามารถถอดช่องออกมาแล้วนำแปรงสีฟันขนนุ่มขนาดพอดีขัดบริเวณที่มีคราบสกปรกเกาะอยู่ แล้วปล่อยให้แห้ง จากนั้นค่อยนำกลับไปใส่ที่ตัวเครื่องเหมือนเดิม เพียงเท่านี้ช่องใส่น้ำยาต่าง ๆ ก็จะไม่อุดตันแล้ว

  1. ล้างเครื่องซักผ้าอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

หลายคนอาจจะคิดว่าการล้างเครื่องซักผ้าเป็นประจำอาจเป็นสิ่งไม่จำเป็น แต่เราขอบอกเลยว่า การล้างเครื่องซักผ้า แค่เพียงอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง จะช่วยเพิ่มความสะอาดให้กับเสื้อผ้าของเราได้มากขึ้น เพราะตัวถังเป็นสิ่งที่ช่วยรองรับสิ่งสกปรกที่มาจากเสื้อผ้า, ผ้าเช็ดตัว, ผ้าเช็ดโต๊ะ, ปลอกหมอน ฯลฯ มาเป็นเวลานาน ซึ่งสิ่งสกปรกเหล่านี้นอกจากจะสร้างสุขอนามัยที่ไม่ดีให้กับคุณและครอบครัวแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการอุดตันของตัวเครื่อง ส่งผลให้เครื่องไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ​ สำหรับวิธีในการล้างเครื่องซักผ้าที่เราขอแนะนำมีดังนี้

  • ล้างตัวถังเครื่องซักผ้า: สำหรับเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้านั้น คุณสามารถใช้ได้ทั้งน้ำส้มสายชู, เบกกิ้งโซดา, ผงวิตามินซี หรือกรดมะนาวมาช่วยขัด โดยขัดด้วยแปรงพร้อมน้ำสะอาดให้ทั่วบริเวณตัวถัง จากนั้นเลือกให้เครื่องซักผ้าอยู่ในโหมดปั่นหมาดเพื่อเป็นการล้างถังประมาณ 10-15 นาที แล้วเปิดฝาถังไว้ 24 ชั่วโมง ให้คุณมั่นใจว่าเครื่องซักผ้าของคุณจะไม่เหม็นอับ และไร้สารต่าง ๆ
  • ล้างตัวกรองปั๊มหรือไส้กรองเครื่องซักผ้า: ขั้นตอนในการล้างตัวกรองปั๊มหรือไส้กรองเครื่องซักผ้านั้นทำได้ไม่ยาก เพียงแค่คุณถอดตัวกรองปั๊มหรือไส้กรองออกมา จากนั้นนำกะละมังหรือถังเล็ก ๆ ใส่น้ำเปล่าที่สะอาด แล้วขัดด้วยแปรงเพื่อให้ฝุ่น, ขี้ผง หรือเศษผมออกมา เท่านี้จะช่วยให้เครื่องซักผ้าของคุณสะอาดขึ้นได้อีกหนึ่งระดับ
  1. ตรวจเช็กเหรียญ หรือเศษขยะในกระเป๋าเสื้อ-กางเกงก่อนซัก

เชื่อว่าแทบทุกคนคงจะเคยลืมเหรียญ, เศษกระดาษ หรือเศษขยะไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง แล้วนำไปซัก และเชื่อว่าไม่เป็นอะไร แต่ในความจริงแล้ว นี่คืออีกหนึ่งสาเหตุของการลดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า เนื่องจากสิ่งของเล็ก ๆ เหล่านี้อาจเข้าไปอุดตัน หรือติดตามกลไกของเครื่องซักผ้า ทำให้เกิดความเสียหายหรือพังได้

  1. ไม่ควรทิ้งผ้าที่ซักเสร็จไว้ในเครื่องนานจนเกินไป

การปล่อยผ้าที่ซักเสร็จแล้วทิ้งไว้ในเครื่องซักผ้าเป็นเวลานาน อาจเป็นสาเหตุของความอับชื้น, เชื้อรา และกลิ่นเหม็นอับที่เกิดภายในตัวเครื่องและเสื้อผ้าของคุณ รวมถึงยังอาจจะทำให้เกิดคราบต่าง ๆ บริเวณขอบยางรอบฝาเครื่องได้

  1. เปิดฝาระบายอากาศอยู่เสมอ เพื่อลดเชื้อราและกลิ่นอับชื้น

การเปิดฝาระบายอากาศอยู่เสมอ หลังจากซักผ้าเสร็จประมาณ 15-20 นาที จะเป็นการช่วยลดกลิ่นอับและความชื้นบนตัวเครื่องซักผ้าได้อีกวิธีหนึ่ง หรือถ้าคุณอยากเพิ่มความสะอาดให้กับตัวถัง เราขอแนะนำให้คุณหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดภายในตัวถังเพื่อความสะอาดในการซักผ้าครั้งถัดไป

  1. ไม่ใส่ผ้าแน่นเครื่องซักผ้าจนเกินไป

การนำผ้าใส่เครื่องซักผ้าแน่นจนเกินไป อาจทำให้เครื่องซักผ้าของคุณรับน้ำหนักไม่ไหว ซึ่งไม่ว่าเครื่องซักผ้าของคุณจะมีราคาแพง หรือเครื่องใหญ่แค่ไหน การใช้งานในลักษณะนี้ก็เป็นสาเหตุทำให้ตัวเครื่องทำงานหนัก และส่งผลให้เครื่องเสื่อมสภาพได้ง่าย แถมยังทำให้เปลืองไฟอีกด้วย

       7. ตรวจสภาพเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอทางที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้คุณตรวจสภาพเครื่องซักผ้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เสียงขณะซักเพราะหากเกิดมีเสียงที่แปลกไปขณะใช้งาน อาจมีสาเหตุจากน็อตหรืออะไหล่บางชิ้นหลุด รวมถึงสาเหตุอย่างน้ำรั่ว เป็นต้น เพื่อจะได้รีบซ่อมแซมและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งซ่อมหากมีปัญหาไม่หนักมาก

 

 

03 เมษายน 2567

ผู้ชม 15 ครั้ง

Engine by shopup.com